Background : home-designing.com
สำหรับใครที่มีแพลนที่กำลังจะทำบ้านใหม่ หรือเปิดปีใหม่มาแล้วอยากจัดตกแต่งบ้านใหม่เสริมสิริมงคล รับความปัง ความเฮง ตลอดปี 2023 วันนี้ 369 House Design ของเราได้นำเคล็ดไม่ลับในการจัดบ้านตามศาสตร์ฮวงจุ้ยให้แก่ 5 ห้องสำคัญภายในบ้าน ได้แก่ ห้องรับแขก, ห้องนอน, ห้องน้ำ, ห้องครัว และห้องพระ มาฝากกันอย่างละเอียดยิบ ที่รับรองได้เลยว่าเมื่ออ่านจบแล้วสามารถนำไปเป็นแนวทางทำตามกันได้อย่างแน่นอน
การจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยนั้น นอกจากเป็นการทำตามความเชื่อเพื่อเป็นสิริมงคล ดึงดูด และเปิดรับพลังงานดีๆเข้ามาในตัวบ้านแล้วนั้น ในปัจจุบันได้มีการพิสูจน์แล้วว่ากว่าครึ่งของการแต่งบ้านตามหลักของฮวงจุ้ยมีความสอดคล้องในทางวิทยาศาสตร์ที่จะช่วยให้บ้านดูดี ปลอดภัย พร้อมใช้งาน อีกทั้งผู้อยู่อาศัยยังมีความสุขทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตอีกด้วย หากพร้อมแล้วก็ไปดูวิธีการจัดตกแต่งของแต่ละห้องกันได้เลย
ห้องรับแขก
ห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่นนั้นถือว่าเป็นหัวใจของบ้านที่จะส่งผลต่อทั้งผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือน การออกแบบตกแต่ง ปรับ หรือจัดวางให้ห้องรับแขกถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยนั้นสามารถช่วยเพิ่ม และเสริมพลังบวกให้แก่บ้านทั้งหลังและคนในบ้านได้เลยทีเดียว
โดยเราได้สรุปหลักการง่ายๆในการปรับใช้มาให้นำไปทำตามกันได้ง่ายๆเพียงแค่ จัดวางองค์ประกอบของห้องให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย, ประดับตกแต่งห้องโดยเลือกใช้สีมงคล, สร้างความรู้สึกดีด้วยรูปภาพ, จัดห้องให้มีความสมดุลระหว่าง “หยิน” และ ”หยาง” เพื่อเพิ่มพลังงานดีให้แก่ห้องรับแขก, เสริมมุมโชคลาภ, แก้ไขจุดอับด้วยสิ่งของที่เหมาะสม หรือ จัดตกแต่งห้องรับแขกให้ถูกหลักฮวงจุ้ยตามทิศ และตำแหน่งที่ห้องตั้งอยู่ในบ้าน
ตำแหน่งของห้องรับแขกที่ดีตามหลักฮวงจุ้ย
- ควรอยู่บริเวณหน้าสุดของบ้าน โดยให้เป็นห้องห้องแรกที่เจอหลังจากเปิดประตูเข้ามา
- หากเลือกทิศของห้องได้ ควรให้ห้องรับแขกอยู่ทางทิศตะวันตกของบ้าน เพราะถือว่าเป็นตำแหน่งที่เป็นฮวงจุ้ยมหามงคลและส่งผลต่อความรุ่งเรืองรุ่งโรจน์ได้อย่างดีเยี่ยม
- “หน้าต่าง” ของห้องควรหันไปทาง “ทิศตะวันออกเฉียงใต้” เพื่อให้มีแสงเข้ามาเพียงพอตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกตลอดทั้งปี ในฤดูร้อนจะไม่ร้อนจนเกินไป และในหน้าหนาวก็จะไม่ทำให้หนาวมากจนเกินไปเช่นกัน การที่แสงสว่างมากพอและทั่วถึง อีกทั้งอากาศถ่ายเทตลอดทั้งวันนั้นส่งผลให้สมาชิกในบ้านมีสุขภาพทั้งกายและใจที่ดีเยี่ยม และถือว่าเป็นทิศมงคลของบ้านอีกด้วย
- ขนาดพื้นที่ของห้องรับแขกควรมีขนาดใหญ่พอสมควร ให้มองแล้วดูโล่ง โปร่ง สบายตา แต่หากมีพื้นที่จำกัด สามารถใช้กระจกเงาบานใหญ่มาติดพรางสายตาให้ห้องดูกว้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้
- ตำแหน่งดึงดูดทรัพย์เข้าบ้าน คือมุมทะแยงที่อยู่ตรงข้ามกับประตูทางเข้าของห้องรับแขกควรจัดให้มีของมงคลวางอยู่ที่ตรงนั้นอย่างน้อย 1 ชิ้นที่เห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งโดยปกติแล้วมุมนั้น มักเป็นมุมที่สงบไม่ค่อยม่คนเดินผ่านของห้อง จะช่วยในเรื่องของโชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง
- พื้นที่ใกล้เคียงและติดกับห้องรับแขก ควรเป็นพื้นที่โล่ง โปร่ง เห็นทัศนียภาพด้วย เพราะตามหลักฮวงจุ้ยแล้วการที่ห้องรับแขกถูกบดบังทัศนียภาพด้วยอีกห้อง ผนังตึก หรืออาคารข้างเคียง จะส่งผลให้คนในบ้านมีเรื่องต้องเดือดเนื้อร้อนใจ
การจัดตกแต่งห้องรับแขกตามหลักฮวงจุ้ยที่แนะนำ (DO)
- รักษาห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่นให้สะอาดตลอดเวลา จัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้เดินได้คล่องแคล่ว ไม่แออัด ให้ดูแล้วโปร่ง สว่างไสวสบายตา มีแสงไฟทั้งในบ้านและภายนอกเพียงพอตลอดทั้งวัน โดยจะมีผลต่อความสุข สงบภานในและโชคลาภที่จะเข้ามาภายในบ้าน อีกทั้งยังทำให้พลังงานดีหมุนเวียนเข้าตัวบ้านได้อย่างสะดวกอีกด้วย
- ให้ประตูและหน้าต่างของห้องรับแขกมีลักษณะใส เพื่อให้เห็นทัศนียภาพทั้งภายในและนอกบ้าน
การจัดตกแต่งห้องรับแขกตามหลักฮวงจุ้ยที่ไม่แนะนำและควรหลีกเลี่ยง (DON’T)
- ไม่ควรจัดโซฟาเป็นแนวตรง หรือรูปตัวแอล (L)
- เลือกใช้โซฟาคนละชุดมารวมกัน เช่น นำทรงเหลี่ยมและทรงโค้งมนมาประกอบเข้าเป็นชุดเดียวกัน เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
- อย่าจัดวางหรือจัดตกแต่งห้องให้เฟอร์นิเจอร์แกะกะขวางทางเดินหรือขวางประตูทางเข้าออกเด็ดขาด ถือว่าผิดหลังฮวงจุ้ยและทำให้อับโชค
การจัดตกแต่งห้องรับแขกให้ถูกหลักฮวงจุ้ยตามทิศของห้อง
ในกรณีที่ไม่สามารถเลือกตำแหน่งหรือทิศของห้องรับแขกได้ เราก็มีวิธีแนะนำในการจัดตกแต่งห้องรับแขกให้ถูกหลักฮวงจุ้ยสำหรับห้องที่อยู่ในแต่ละตำแหน่งของบ้านง่ายๆเช่นเดียวกัน
- ห้องรับแขกอยู่ทางทิศเหนือของบ้าน – เป็นทิศธาตุน้ำ ควรเลือกใช้สีโทนแดงหรือสีอื่นที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นในการทาเป็นสีห้องเพื่อสร้างสมดุล และไม่ควรใช้สีโทนที่ทำให้รู้สึกเย็นมาเป็นสีหลัก เช่นสีเทา หรือสีน้ำเงิน
- ห้องรับแขกที่อยู่ทางทิศใต้ของบ้าน – เป็นทิศธาตุไฟ และถือว่าเป็นทิศที่เป็นพื้นที่ของพลังอำนาจ ชื่อเสียง และการยอมรับ หากจัดให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยนั้นนับว่าเป็นการเปิดรับกระแสความมงคลเข้าบ้าน สีที่แนะนำสำหรับห้องรับแขกที่อยู่ทางทิศใต้ของบ้านคือสีขาว จะสร้างสมดุลทำให้รู้สึกเย็นขึ้น อีกทั้งสีขาว ยังเป็นสีที่เป็นสัญลักษณ์ของเงินทองอีกด้วย ในส่วนของการตกแต่งนั้นควรใช้เครื่องเรือนที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า สีน้ำตาล เขียว และชมพู ไฟในห้องควรใช้ไฟที่ให้ความสว่างสีขาวโทนอบอุ่น หรือใช้พรมสีน้ำตาลให้ห้องดูอบอุ่นขึ้นได้เช่นเดียวกัน
- ห้องรับแขกที่อยู่ทางทิศตะวันออกของบ้าน – เป็นทิศธาตุไม้ และทิศนี้นับว่าเป็นทิศแห่งหารต่อสู้ โทนสีที่แนะนำสำหรับห้องที่อยู่ในทิศนี้คือสีเหลือง โดยจะเลือกเป็นเหลืองอ่อนหรือเข้มก็ได้ ในส่วนของการเลือกเฟอร์นิเจอร์มาใช้ในการประดับตกแต่งนั้น แนะนำให้เลือสีที่ผสมกันระหว่าสีดำ ฟ้า น้ำเงิน คราม เขียว ชมพู และแดง และในส่วนของรูปทรงของประดับตกแต่งเพื่อเพิ่มพลังงานดีให้แก่ห้อง ควรเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า และควรให้มีต้นไม้จริงให้ร่มเย็นวางไว้ภายในห้อง จะช่วยให้เสริมเรื่องความเจริญรุ่งเรือง
- ห้องรับแขกที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้าน – เป็นทิศธาตุดิน ห้องรับแขกที่อยู่ในตำแหน่งนี้เด่นในเรื่องของฮวงจุ้ยที่ให้พลังด้านการศึกษา การเรียนรู้ และการพัฒนา สีห้องที่แนะนำควรใช้เป็นสีโทนอบอุ่น และให้จัดตกแต่งห้องในรูปแบบโมเดิร์น แต่ยังอยู่ในขอบเขตของสีที่อบอุ่นและเอิร์ธโทน สำหรับห้องในทิศนี้ควรจัดให้มีชั้นวางหนังสืออยู่ในห้องเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมในเรื่องของการศึกษาและการพัฒนาชีวิต
- ห้องรับแขกที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบ้าน – เป็นทิศธาตุไม้ ที่เด่นเรื่องตำแหน่งของความมั่งคั่งร่ำรวย สีที่แนะนำคือสีโทนเย็นเช่นสีโทนเขียว ฟ้า ครามหรือสีดำ ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์สำหรับจัดตกแต่งแนะนำให้มีไม้เป็น่วนประกอบ และสามารถใช้สีชมพูมาจัดตกแต่งเป็นองประกอบตัดสีโทนเย็นและความเป็นธรรมชาติเพื่อเพิ่มสมดุลได้เช่นเดียวกัน และแนะนำให้มีมุมกาแฟไว้ในห้องเพื่อเพิ่มบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
- ห้องรับแขกที่อยู่ทางทิศตะวันตกของบ้าน – เป็นทิศธาตุทอง นับว่าเป็นทิศแห่งความคาดหวัง อนาคต และความลับ สีที่แนะนำคือโทนสีเขียวหรือเทาอ่อนๆ จะทำให้รู้สึกถึงความอ่อนโยน ผ่อนคลาย สบายตา และของประดับตกแต่งควรใช้เป็นวัตถุที่ทำจากโลหะหรือสแตนเลส และกระจกควรติดฟิล์มเนื่องจากทิศฝั่งนี้มักทำให้ห้องร้อนและมีความร้อนสะสม หรือนำตู้ปลามาตั้งภายในห้องเพื่อให้ความรู้วึกเย็นสบายลงก็ได้เช่นเดียวกัน
- ห้องรับแขกที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของบ้าน – เป็นตำแหน่งที่เด่นในเรื่องการอาชีพ การงาน การอุปถัมป์ค้ำชู ช่วยเหลือเกื้อกูล สีห้องที่ควรใช้คือสีขาวและสีฟ้า หากห้องตั้งอยู่ในตำแหน่งนี้แนะนำให้ติดกระจก ในส่วนเฟอร์นิเจอร์แนะนำให้ใช้เป็นสีน้ำตาล และตกแต่ห้องด้วยต้นไม้สีเขียวให้ดูสบายตา ใช้แสงสว่างในห้องเป็นไฟสีขาว และควรเปิดเพลงคลอในห้องเบาๆเพื่อเพิ่มบรรยากาศที่ดี
- ห้องรับแขกที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน – เด่นในเรื่องตำแหน่งฮวงจุ้ยของความรัก ชีวิตคู่ และความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว สีห้องที่แนะนำคือสีเอิร์ธโทน แสงสว่างในห้องให้เลือกใช้สีโทนอุ่น แต่ในขณะเดียวกันองค์ประกอบและของตกแต่งให้ใช้เป็นสีสดใสแนวโมเดิร์นเพื่อให้เกิดความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และสามารถใช้สีชมพูตกแต่งภายในห้อง เพื่อพลังความสุขด้านความรักได้
ห้องนอน
ห้องนอนเป็นอีกห้องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะไม่ว่าเราจะทำงานนอกบ้านหรือที่บ้าน ออกไปไหนต่อไหนมาก็ตาม ห้องนอนเป็นห้องที่นับได้ว่าเราใช้เวลาในห้องนี้มากที่สุดในบรรดาทุกห้องในบ้าน หรือราวๆ 1 ใน 3 ของวันเลยทีเดียว การจัดห้องนอนให้ดีนั้นมีแต่เฮง ส่งผลดีต่อการพักผ่อนทำให้ตื่นมาใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างมีความสุข
ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดของห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ย
- กลางบ้านนับว่าเป็นตำแหน่งที่เป็นมงคลมากที่สุดสำหรับห้องนอน เพราะเปรียบเสมือนจุดกึ่งกลางที่เป็นหัวใจของบ้านอีกทั้งยังให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากกว่าจุดอื่นๆ แม้จำทำให้ความเป็นส่วนตัวและรู้สึกผ่อนคลายแต่อย่างไรก็ตามปัญหาที่มาพร้อมกับห้องที่อยู่กลางบ้านคือเรื่องของแสงที่ไม่เพียงพอ อาจทำให้อับชื่นและไม่รู้สึกสดชื่นในช่วงเช้า
- สำหรับห้องนอนของเจ้าของบ้าน ควรจัดให้อยู่ในตำแหน่งหลังบ้าน ไม่ควรอยู่หน้าบ้านเป็นอันขาดเพราะถือว่าเป็นตำแหน่งของบริวาร แต่อย่างไรก็ตาม ตามหลักความจริงนั้นหน้าบ้านมักเป็นจุดที่คนพลุกพล่าน เข้าออกบ่อย ไม่เงียบสงบ ทำให้พักผ่อนได้ไม่เต็มที่ ไม่เหมาะกับเป็นตำแหน่งของห้องนอน
การจัดตกแต่งห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ยที่แนะนำ (DO)
- หน้าต่าง หรือจุดรับลมและแสงแดด ควรจัดให้มีอย่างน้อย 2 ฝั่ง ให้แสงแดดเพียงพอและมีลมหมุนเวียนเข้ามาภายในห้องนอนได้สะดวก
- แสงสว่างภายในห้อง ทั้งแสงธรรมชาติและแสงไฟ ควรจัดให้ในตอนกลางวันมีแสงสว่างเพียงพอ แต่ในขณะเดียวกันตอนกลางคืนต้องมืดสนิท
- ให้หันหัวเตียงไปทางทิศเหนือหรือทิศตะวันออก ถือว่าเป็นทิศมงคลที่สุดในการวางหัวเตียงของไทย
- จัดวางเตียงให้อยู่ในตำแหน่งทะแยงมุมกับประตู ให้ชิดกำแพงฝั่งใดฝั่งหนึ่ง โดยให้สามารถเห็นคนเดินเข้าออกห้องได้อย่างชัดเจน
- ให้วางโคมไฟ ไว้ขนาบข้างหัวเตียงทั้งสองด้าน เพื่อเพิ่มพลังงานให้สมดุล และเชื่อว่าจะทำให้คู่รักรักกันได้ยืนยาว
- รูปที่แนะนำสำหรับห้องนอนคือ ภาพธรรมชาติ หรือภาพทิวทัศน์ที่ไม่เกี่ยวกับน้ำ หรือจะใช้เป็นภาพที่มองแล้วรู้สึกสร้างแรงบรรดาลใจก็ได้เช่นเดียวกัน
- โต๊ะข้างหัวเตียง แนะนำให้เลือกใช้เป็นทรงโค้งมน จะช่วยส่งเสริมให้พลังงานดีไหลเวียนภายในห้องนอนได้ดีมากยิ่งขึ้น และพยายามหลีกเลี่ยงโต๊ะหัวเตียงหรือเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นเหลี่ยมมุม
- โทนสีห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ยนั้น เจ้าของห้องสามารถเลือกได้ตามความชอบได้เลย โดยแต่ละโทนสีจะให้พลังงานเชิงนัยยะที่แตกต่างกัน ได้แก่ ห้องนอนที่ใช้โทนสีพาสเทล จะช่วยในเรื่องการพักผ่อน ทำให้ผ่อนคลาย และทำให้พลังงานดีภายในห้องไหลเวียนได้ดี, สีเอิร์ธโทน ช่วยเสริมในเรื่องของความมั่งคั่ง มั่นคงในชีวิต และสีโทนร้อน ช่วยเสริมพลังงานด้านการใช้ชีวิต ให้มีความกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น
การจัดตกแต่งห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ยที่ไม่แนะนำและควรหลีกเลี่ยง (DON’T)
- ไม่ควรจัดให้ห้องนอนอยู่บริเวณหน้าบ้าน โดยเฉพาะห้องนอนของเจ้าของบ้าน เพราะบริเวณหร้าบ้านนับว่าเป็นบริเวณของบริวาร ในส่วนของตำแหน่งห้องนอนประธานตามหลักฮวงจุ้ยที่ดีนั้นคือหลังบ้านตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น
- ห้ามห้องนอนติดกับห้องครัว เชื่อว่าจะทำให้หงุดหงิดโมโหง่าย สุขภาพเสื่อมโทรม นอนหลับไม่สบาย อีกทั้งยังเชื่อว่าทำให้ชีวิตคู่ไม่ราบรื่นอีกด้วย
- ห้ามวางเตียงอยู่ใต้คาน ส่งผลทำให้การเงินติดขัดและจะมีปัญหาเรื่องบริวาร
- ไม่ควรหันเตียงไปทางเดียวกันกับประตู ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วนับว่าเป็นการรับพลังงานลบ ทำให้นอนได้ไม่เต็มที่ เหนื่อยง่าย
- ไม่ควรหันเตียงเข้าหากระจกเงา ถือว่าเป็นการดูดหรือสะท้อนพลังงานออกไจากตัวเรา
- ไม่ควรให้เตียงอยู่ระหว่างประตูและหน้าต่าง เชื่อว่าเป็นการดูดพลังงานออกจากร่างกายเช่นเดียวกัน
- ไม่ควรวางชั้นหนังสือไว้ในห้องนอน เพราะจำทำให้รู้สึกเหนื่อยและไม่ได้พักผ่อน แต่หากใครติดการอ่านหนังสือมากๆ สามารถหยิบเข้ามาเป็นเล่มและวางไว้ในตำแหน่งหัวเตียงได้
- หลีกเลี่ยงของประดับตกแต่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับน้ำมาไว้ในห้องนอน ไม่ว่าจะของจริงหรือที่สร้างขึ้นมาเพื่อประดับตกแต่ง อาทิ ตู้ปลา น้ำตก หรือแม้แต่รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับแหล่งน้ำไม่ว่าจะเป็น แม่น้ำ ทะเล มหาสมุทร ฯลฯ เพราะถือว่าเป็นการนำความยากลำบาก และความยากจนเข้าสู่ชีวิต
- รูปภาพ นอกจากภาพเกี่ยวกับแหล่งน้ำแล้ว ภาพคนที่มีลักษณะยืนจ้องมองก็เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
ตำแหน่งการจัดวางหัวเตียงให้หันไปในแต่ละทิศตามหลักฮวงจุ้ย
- หัวเตียงหันไปทางทิศเหนือ เสริมในเรื่องสัญชาตญาณ การรับรู้ และพัฒนาการด้านความสามารถ
- หัวเตียงหันไปทางทิศใต้ ส่งเสริมในเรื่องการเข้าสังคม เช่น การมีชื่อเสียง เกียรติยศ คนนับหน้าถือตาและให้เกียรติในสังคม
- หัวเตียงหันไปทางทิศตะวันออก ช่วยในเรื่องการนอนได้ดีที่สุด ทำให้รู้สึกสงบ จิตใจไม่ว้าวุ่นฟุ้งซ่าน นอนหลับสนิทตลอดทั้งคืน
- หัวเตียงหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศนี้จะส่งเสริมเรื่องหน้าที่การงาน โดยเฉพาะงานวายวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย งานค้นคว้า งานที่เกี่ยงข้องกับการทดลอง อีกทั้งยังส่งเสริมในเรื่องของความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อน ทั้งเพื่อนร่วมงานและมิตรสหายในชีวิต
- หัวเตียงหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เสริมในเรื่องของความอดทน ส่งเสริมในเรื่องความขยันหมั่นเพียรและความอดทนในการทำงานมากยิ่งขึ้น
- หัวเตียงหันไปทางทิศตะวันตก การหันหัวเตียงไปทางทิศนี้เหมาะกับคู่รัก เพราะช่วยส่งเสริมให้มีลูกดก และมีลูกที่ดี
- หัวเตียงหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ส่งเสริมในเรื่องบริวาร ทำให้มีบริวาร เพื่อนและคนรู้จักที่ดีมากขึ้น
หัวเตียงหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เป็นอีกทิศที่แนะนำสำหรับคนมีคู่ เพราะเชื่อว่าจะส่งเสริมให้ความรักราบรื่น หวานฉ่ำ มีแต่ความสมหวัง หรือแม้แต่กระทั่งคนโสดก็จะช่วยให้มีโอกาสเจอความรักที่ดี
ห้องน้ำ
ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ห้องน้ำนั้นถือว่าเป็นตำแหน่งที่ส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของคนในบ้าน เพราะไม่เพียงแต่ผู้พักอาศัยเท่านั้น แขกหรือผู้มาเยือนก็จำเป็นที่จะต้องใช้ห้องน้ำเช่นกัน การจัดห้องน้ำให้ดีถูกสุขลักษณะ อนามัย และถูกหลักฮวงจุ้ยที่ดีนั้น นอกจากสุขภาพแล้วก็ยังช่วยส่งเสริมเรื่องความเฮงความปังให้คนในบ้านได้เช่นกัน หรือพูดได้อีกอย่าว่า “มีห้องน้ำดี ชีวิตก็มีความสุข”
ฮวงจุ้ยห้องน้ำนั้น เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม แม้เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นห้องที่มีการขับถ่ายของเสียและสิ่งสกปรกแต่ก็เป็นห้องที่เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีไว้ในบ้านเช่นเดียวกัน ห้องน้ำเป็นห้องที่มักมีกลิ่นไม่พึงประสงค์และที่มีความชื้นสูง ตำแหน่งในการจัดวาวภายในบ้านจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ควรดูและให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เกิดมลภาวะต่อห้องอื่นๆภายในบ้าน
ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดของห้องน้ำ
แนะนำให้ห้องน้ำตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ถือว่าเป็นทิศที่มงคลที่สุดในการตั้งห้องน้ำตามหลักฮวงจุ้ย อีกทั้งยังมีแสงแดดจากธรรมชาติส่องถึงอย่างเพียงพอ
การจัดตกแต่งห้องน้ำตามหลักฮวงจุ้ยที่แนะนำ (DO)
- ควรจัดให้ห้องน้ำมีความโล่ง โปร่ง สบาย แสงแดดส่องถึง
- ห้องน้ำที่ดีตามหลักฮวงจุ้ยนั้นควรมีหน้าต่างอย่างน้อยหนึ่งบาน
- ให้ความสำคัญในเรื่องการระบายอากาศสูงสุด หากไม่มีหน้าต่างให้ติดเครื่องดูดและระบายอากาศ
- ประตูห้องน้ำควรจัดให้หันเป็นแนวขวางขนาบไปกับตัวบ้านเพื่อให้พลังงานในเรื่องของทรัพย์สินเงินทอง โชคลาภ ไหลเข้ามาสู่ตัวบ้านและกักเก็บได้อย่างเต็มที่ จึงไม่ควรให้ประตูห้องน้ำเปิดออกไปทางหน้าบ้าน
- ฝักบัวและก็อกน้ำ จัดให้หันเข้าหาตัวบ้านเสมือนการให้ทรัพย์สินเงินทองไหลเข้ามาภายในบ้าน
- การวางชักโครกหรือโถสุขภัณฑ์ ให้วางเป็นแนวขวางไปกับตัวบ้าน
- อ่างอาบน้ำตามหลักฮวงจุ้ยนั้นควรมีขนาดที่พอดีกับห้องน้ำแต่ละขนาด ไม่ควรใหญ่จนคับห้องน้ำ โดยรูปทรงอ่างอาบน้ำที่แนะนำคือโค้งมนและให้วางขนานไปกับพื้นหรือเป็นอ่างแบบฝัง ไม่ควรมีบันไดข้างอ่าง
- การใช้ธาตุไม้หรือต้นไม้มาตกแต่งห้องน้ำเป็นสิ่งที่แนะนำเป็นอย่างมากเพราะเป็นการเพิ่มความสมดุลให้แก่พลังงานธาตุ อีกทั้งยังเป็นการช่วยดูดซับพลังงานไม่ดีภายในห้องน้ำได้อีกด้วย
- สีห้องน้ำตามหลักของฮวงจุ้ยนั้นโทนสีที่แนะนำที่สุดคือสีสว่างโดยเฉพาะสีขาวเชื่อว่าช่วยดูดซับพลังงานดีที่รั่วไหลออกไปได้ และสีอื่นที่สามารถเลือกใช้ได้เช่นกัน อาทิ สีเอิร์ธโทน และสีพาสเทล สีเหล่านี้นับว่าสามารถช่วยลดความอัปมงคลของห้องน้ำได้
การจัดตกแต่งห้องน้ำตามหลักฮวงจุ้ยที่ไม่แนะนำและควรหลีกเลี่ยง (DON’T)
- ห้ามตั้งอยู่กลางบ้าน เชื่อว่าจะทำให้คนภายในบ้านแตกแยกและมีเรื่องบาดหมางกันอยู่เสมอ นอกจากนั้นตามหลักฮวงจุ้ยแล้วนั้นยังทำให้เก็บเงินทองไม่อยู่ ส่งผลให้ส่งลาภดีๆหลุดลอยหายไป แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ทำระบบหมุนเวียนอากาศให้ดี ไม่ให้ส่งกลิ่นไปยังส่วนอื่นๆของบ้านเพราะจำส่งผลเสียทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้อยู่อาศัย
- ปลายสุดของทางเดินบ้านก็เป็นตำแหน่งที่ไม่แนะนำเช่นเดียวกันในการตั้งห้องน้ำ เชื่อว่าเป็นตำแหน่งที่ทำให้พลังงานพุ่งเข้าไปเก็บในห้องน้ำโดยจะส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์และกระเพาะอาหารของคนภายในบ้าน แต่หากเลี่ยงไม่ได้ สามารถแก้เคล็ดได้ด้วยการติดม่านกั้นหรือระฆังลมเพื่อกระจายพลังงาน
- ห้ามมีห้องน้ำมากกว่าจำนวนสมาชิกภายในบ้าน ถือว่าเป็นการเสียสมดุลเป็นอย่างมาก ทำให้ใช้ห้องน้ำไม่ครบทุกห้องและห้องน้ำที่ไม่ถูกใช้งานเป็นเวลานาน แน่นอนว่านอกจากน้ำในชักโครกจะเน่าเสียเพราะไม่มีการหมุนเวียนแล้วนั้น ยังทำให้ห้องน้ำมีอุ่นละอองและเศษซากแมลงจะส่งกลิ่นเน่าเสีย ก่อให้เกิดเชื้อโรค ทำให้กลิ่นเหม็นและสิ่งไม่ดีย้อนกลับเข้ามาสู่ตัวบ้าน
- ไม่ควรให้ประตูห้องน้ำอยู่ตรงกับห้องครัว ทั้งในลักษณะตรงข้างกันกันและตรงกันในลักษณะที่ห้องน้ำอยู่ด้านบนและมีห้องครัวหรือห้องรับประทานอาหารอยู่ชั้นล่างในตำแหน่งตรงกันพอดี ตามหลักแล้วนั้นห้องน้ำเปรียบเสมือนธาตุน้ำ และห้องครัวเปรียบเสมือนธาตุไฟ ไม่สมควรให้มาตั้งอยู่ใกล้กัน ในทางเดียวกันห้องน้ำเป็นห้องที่ใช้ขับถ่ายของเสีย ในขณะที่ห้องครัวเป็นห้องที่ใช้ทำอาหารหากอยู่ใกล้กันอาจทำให้ส่งกลิ่นเหม็นและกระจายเชื้อโรคเข้าหากันอีกทั้งยังจะทำให้ครัวอับชื้นมากขึ้นอีกด้วย หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ให้แก้เคล็ดฮวงจุ้ยโดยการนำม่านหรือมู่ลี่มาติดกันไว้ที่ประตูห้องน้ำ นอกจากนี้ยังแก้เคล็ดได้โดยการใช้ธาตุไม้มาเป็นตัวกลางสร้างสมดุลระหว่างธาตุน้ำและธาตุไฟ โดยอาจจะเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากไม้ หรือใช้ต้นไม้มาประดับตกแต่งก็ได้เช่นเดียวกัน
- ห้ามมีการรั่วไหลหรือรั่วซึมของน้ำเด็ดขาด หากพบว่าชำรุดให้รีบซ่อม เพราะเปรียบเสมือนการปล่อยเงินทองให้รั่วไหลออกไป
- การวางชักโครกหรือโถสุขภัณฑ์ห้ามหันไปทางหน้าบ้าน หลังบ้านและทิศทางเดียวกับกับประตูห้องน้ำ จะทำให้อับโชคลาภ และตามหลักฮวงจุ้ยนั้นยังเชื่อว่าหากชักโครกหันไปทางหลังบ้าน จะส่งผลต่อเรื่องความสัมพันธ์ ทำให้ไม่ค่อยมีคนคบ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือญาติพี่น้อง แต่ถ้าชักโครกหันไปทางหน้าบ้านจะทำให้บ้านนี้เก็บความลับไม่อยู่
- ไม่แนะนำให้ใช้สีแห่งธาตุไฟในการทาห้องน้ำ เช่น สีแดง ชมพู ม่วง รวมถึงสีธาตุน้ำ เช่น ฟ้า น้ำเงิน ดำ เพราะตามหลักฮวงจุ้ยแล้วสีเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นสีที่จะเพิ่มพลังงานลบให้แก่ห้องน้ำ จะส่งผลกระทบต่อคนในบ้านให้มีเหตุอันต้องเจ็บป่วย
การจัดตกแต่งห้องน้ำให้ถูกหลักฮวงจุ้ยตามทิศของห้อง
- ห้องน้ำตั้งอยู่ทางทิศใต้ เป็นทิศที่ไม่แนะนำในการตั้งห้องน้ำ เพราะเป็นตำแหน่งที่มีลมพัดผ่านอยู่เสมอ จะทำให้พัดเอากลิ่นแล้วสิ่งสกปรกกระจายเข้าสู่ตัวบ้าน ส่งผลเสียในเรื่องของสุขอนามัยทั้งกายและจิตกับคนในบ้าน
- ห้องน้ำตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ถือเป็นทิศที่แนะนำที่สุดในการตั้งห้องน้ำ เชื่อว่าจะช่วยให้คนภายในบ้านประสบความสำเร็จในเรื่องของหน้าที่การงาน สุขภาพจิตดี มีความสุข อีกทั้งในตอนเช้าห้องน้ำจะได้รับแสงแดดยามเช้าอย่างเพียงพอนอกจากจะช่วยเรื่องความชื้นและการฆ่าเชื้อโรคแล้ว ยังส่งผลให้คนใช้งานห้องน้ำสุขภาพจิตดีตามไปด้วย
- ห้องน้ำตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก เป็นอีกหนึ่งทิศที่แนะนำเช่นเดียวกับทิศตะวันออกในการจัดตั้งห้องน้ำ เพราะเป็นทิศที่ได้รับแสงแดดเต็มๆในช่วงบ่าย ทำให้ห้องน้ำไม่มีความอับชื้นและช่วยฆ่าเชื้อโรคที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี
ห้องน้ำตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทิศนี้นับว่าเป็นทิศอัปมงคล ไม่แนะนำให้เป็นตำแหน่งในการตั้งห้องน้ำเป็นอย่างยิ่ง จะส่งผลให้เกิดการฟ้องร้องด้านคดีความ อีกทั้งยังนำโรคภัยไข้เจ็บเข้ามาสู่คนในบ้าน เพราะเป็นทิศที่ลมพัดผ่านทั้งวัน เชื่อว่าจะพัดเอาสิ่งสกปรกและสิ่งไม่ดีเข้าหาตัวบ้าน
ห้องครัว
ตามหลักแล้วนั้นห้องครัวเปรียบเสมือนจุดแห่งความอุดมสมบูรณ์และแหล่งเพิ่มพูนความสุขให้แก่คนในบ้านพูดได้อีกอย่างหนึ่งว่าเป็นดั่งห้องที่เป็นจิตวิญญาณของบ้านได้เลยทีเดียว การจัดห้องควรให้ดีเป็นมงคลถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยนั้นจะส่งผลดีต่อทุกๆด้านให้แก่สมาชิกภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องสุขภาพ ความอุดมสมบูรณ์ หรือแม้แต่ความสัมพันธ์ของคนภายในบ้าน นับว่าแค่มีห้องครัวดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง “ห้องครัวปัง เสริมพลังให้ชีวิต”
ห้องครัวเป็นอีกห้องหนึ่งที่มีการใช้งานเป็นปนะจำทุกวันและเป็นห้องที่ใช้ในการประกอบอาหารซึ่งหนักไปทางธาตุไฟ การวางฮวงจุ้ยห้องครัวที่ดีนั้นคือการทำให้เกิดสมดุลในทุกๆธาตุภายในห้องเพื่อพลังงานทีดี โดยมีวิธีการจัดให้มงคลตามหลักฮวงจุ้ยนั้นทำได้อย่างไรตามไปดูกันได้เลย
ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดของห้องครัว
- ทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้ถือว่าเป็นทิศมงคลที่แนะนำที่สุดในการตั้งห้องครัว เพราะนับว่าเป็นทิศแห่งธาตุไฟ
- พื้นที่หลังบ้านหรือโซนหลังบ้านที่แยกออกไปจากตัวบ้านเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในบริเวณรั้วเดียวกัน ก็เป็นตำแหน่งที่แนะนำและถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยเช่นเดียวกัน เชื่อว่าเป็นเสมือนแหล่งกักเก็บเงินทอง โชคลาภ ความร่ำรวยและความอุดทสมบูรณ์ไม่ให้ออกไปไหน เปรียบเสมอคลังและขุมทรัพย์ อีกทั้งยังเป็นจุดที่พ้นสายตาคนและลมไม่ให้พัดพากลิ่นอาหารเข้าบ้านอีกด้วย
การจัดตกแต่งห้องครัวตามหลักฮวงจุ้ยที่แนะนำ (DO)
- จัดให้มีแสงสว่างที่เพียงพอ และอากาศสามารถถ่ายเทได้ดี
- พื้นที่ห้องครัวควรมีความกว้างมากพอ หากมีพื้นที่จะกัดมากอย่างครัวในคอนโด สามารถติดกระจกเพื่อพลางสายตาให้ดูกว้างขึ้นได้
- ควรตกแต่งห้องครัวให้เรียบง่ายที่สุด สามารถหยิบอุปกรณ์ต่างๆได้ง่ายและปลอดภัย
- สามารถตกแต่งห้องครัวด้วยการตั้งแจกันดอกไม้ ตะกร้าผลไม้ กระถางต้นไม้เพื่อดูดซับพลังงานดีได้
- เตาประกอบอาหารนั้นเปรียบเสมือนตัวแทนแห่งธาตุไฟของห้องครัว ทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้คือทิศที่แนะนำในการวางตำแหน่งของเตาไฟ นอกจากนั้นสิ่งที่ควรคำนึงถึงไม่แพ้กันคือควรวางเตาไฟให้อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่ายเมื่อเข้ามาในครัว
- จัดให้เตาไฟและอ่างล้างอยู่ห่างกัน หรือตำแหน่งที่เยื้องกันได้จะดีมาก เพราะเตาไฟที่เป็นธาตุไฟและมีความเป็นหยางสูง หากอยู่ใกล้หรือติดกับอ่างล้างที่เป็นธาตุน้ำ จะทำให้ทั้งสองสิ่งเกิดการขัดแย้งกันอยู่ตลอดเวลา ระยะที่เหมาะสมคือควรอยู่ห่างกันอย่างน้อยในระยะหนึ่งเมตร
- จัดวางเตาไฟ อ่างล้างจาน และตู้เย็นให้เป็นรูปสามเหลี่ยม สามสิ่งนี้ถือเป็นสิ่งที่ใช้บ่อยที่สุดในห้องครัว การจัดวางให้ทั้งสามสิ่งนี้อยู่ในตำแหน่งสามเหลี่ยมนอกจากถูกหลักตามศาสตร์ฮวงจุ้ยห้องครัวแล้วนั้น ยังอำนวยในเรื่องของการใช้งานห้องครัวได้สะดวกอีกด้วย
- สีที่แนะนำให้ใช้กับห้องครัวได้แก่ สีนวลอ่อน หรือสีเหลือง เพราะช่วยในเรื่องของการย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี
การจัดตกแต่งห้องครัวตามหลักฮวงจุ้ยที่ไม่แนะนำและควรหลีกเลี่ยง (DON’T)
- ห้ามตั้งอยู่บริเวณทางเข้าหรือทางออกของบ้าน เพราะจะส่งผลต่อพลังงานดีให้เคลื่อนออกไปจากตัวบ้านได้อย่างง่ายดาย
- ไม่ควรตั้งห้องครัวไว้หน้าบ้าน เชื่อว่าจะทำให้เงินทองรั่งไหล มีเหตุอันจะต้องใช้จ่ายอยู่ตลอดเวลา
- ไม่ควรให้ห้องครัวอยู่ตรงกับห้องนอนหรือเตียงนอนชั้นบน เชื่อว่าจะทำให้เจ้าของห้องนอนนั้นมีเรื่องบต้องร้อนใจอยู่ตลอด และเสียสมดุลของธาตุและพลังงานหยาง
- ไม่ควรให้ห้องครัวอยู่ติดกับห้องน้ำ อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้าห้องน้ำนับว่าเป็นธาตุน้ำ หากอยู่ใกล้กันจะทำให้ธาตุทั้งสองเสียสมดุลเป็นอย่างมาก อีกทั้งกลิ่นเหม็นจากห้องน้ำอาจส่งกลิ่นรบกวนได้ และถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่แย่มาก
- ห้ามจัดตกแต่งหรือปล่อยรกรุงรัง วาง หรือจัดเก็บของไม่เป็นระเบียบ
- หลีกเลี่ยงการวางเตาให้อยู่ในตำแหน่งหันหลังให้กับห้องครัว อีกทั้งการวางเตาในลักษณะหันหลังให้แก่ห้องครัวนับว่าเป็นฮวงจุ้ยที่แย่มาก
ห้องพระ
ห้องพระคือจุดแห่งโชคลาภ บารมี ศูนย์รวมความมงคลภายในบ้าน อีกทั้งยังเป็นห้องพักผ่อนให้ความสงบและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในบ้านอีกด้วย ความพิเศษของห้องพระนั้นคือเรื่องของขนาด ไม่ว่าเล็ก กลาง หรือใหญ่ก็ไม่ได้สำคัญไปกว่าการจัดให้ถูกหลังฮวงจุ้ยและวางในตำแหน่งที่เป็นมงคล เพราะเป็นดั่งที่พึ่งทางใจและห้องศักดิ์สิทธิ์ของบ้าน “มีห้องพระดี ชีวิตมีแต่สิริมงคล”
การจัดตกแต่งห้องพระให้ปังนั้นนับว่าเป็นศาสตร์ในการเสริมความสงบสุข และความมงคลให้แก่ตัวบ้านรวมถึงสมาชิกภายในบ้านที่จะดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามา โดยปกติแล้วห้องพระนั้นเป็นเสมือนธาตุไฟจึงต้องมีการให้ความสำคัญในการเลือกตำแหน่งหรือองค์ประกอบต่างๆในการจัดห้องพระให้เกิดความสมดุล โดยสามารถใช้ธาตุดินมาช่วยในการลดทอนความร้อนแรงได้ หากสามารถจัดห้องพระให้ถูกตามหลักฮวงจุ้ยได้แล้วนับว่าเป็นการเปิดทางและดึงพลังงานดีๆเข้ามาอย่างแน่นอน
ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดในการตั้งห้องพระตามหลักฮวงจุ้ย
- จัดให้ห้องพระอยู่ชั้นบนสุดและตำแหน่งสูงสุดของบ้านไม่ว่าจะมีบ้านกี่ชั้นก็ตาม
- ทิศเหนือและทิศตะวันออกคือทิศที่ดีที่สุดตามหลักฮวงจุ้ยและเป็นทิศที่มงคลมากที่สุดในการเลือกให้เป็นตำแหน่งของห้องพระและหิ้งพระภายในบ้าน
- เลือกจัดตั้งห้องพระให้อยู่ในตำแหน่งที่เงียบที่สุดของบ้าน กล่าวคือไม่ให้อยู่ติดกับห้องหรือพื้นที่ที่ใช้ในการทำกิจกรรมบ่อยและวุ่นวาย ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น หรือแม้แต่ห้องครัว แต่สามารถให้อยู่ติดกับห้องนอนได้
การจัดตกแต่งห้องพระตามหลักฮวงจุ้ยที่แนะนำ (DO)
จัดให้อยู่ในตำแหน่งและจัดให้ภายในห้องสามารถถ่ายเทอากาศได้สะดวก เพราะห้องพระนั้นจำเป็นต้องมีการจุดเทียนและจุดธูป ทำให้ลดการเกิดอันตรายจากควันไฟและไฟไหม้ได้ในระดับหนึ่ง
การจัดตกแต่งห้องพระตามหลักฮวงจุ้ยที่ไม่แนะนำและควรหลีกเลี่ยง (DON’T)
- ห้ามให้ห้องพระอยู่ติดหรืออยู่ใกล้กับห้องน้ำ เพราะห้องพระเปรียบเสมือนธาตุไฟที่หากนำมาอยู่ใกล้กันจะทำให้เสียสมดุลของธาตุที่ปะทะกันอยู่ตลอดเวลาแล้วนั้น อาจทำให้ความศักดิ์สิทธิ์หรือของศักดิ์สิทธิ์มงคลเสื่อมลงได้ อีกทั้งยังเชื่อว่าจะทำให้เงินทองไหลออกจากบ้านไปได้อย่างง่ายดาย ผนังห้องน้ำก็เช่นเดียวกัน ไม่ควรอยู่ติดกับห้องพระหรือติดหิ้งพระเป็นอย่างยิ่ง
- หลีกเลี่ยงการตั้งห้องพระหรือหิ้งพระให้อยู่ติดกับบันได ถือเป็นตำแหน่งที่ไม่ค่อยเป็นมงคล ส่งผลให้คนในบ้านไม่สงบ มีความไม่สบายใจ และว้าวุ่นใจได้
- หากห้องพระอยู่ติดกับห้องนอน ห้ามหันปลายเตียงไปทางห้องพระหรือหิ้งพระ นอกจากจะไม่เป็นมงคลแล้วยังทำให้ได้รับพลังงานจากธาตุไฟมากจนเกินไป อาจทพให้ปวดหัว ไม่สบายตัว นอนหลับไม่สนิทได้
การจัดวางตำแหน่งห้องพระหรือหิ้งตามทิศของประตูบ้านให้ถูกหลักฮวงจุ้ย
- ประตูบ้านหันไปทางทิศเหนือ ให้ห้องพระหรือหิ้งพระอยู่ตำแหน่งตรงกลางของตัวบ้าน และให้เลือกพระประธานที่เกี่ยวข้องกับน้ำมาประทับบูชา จะช่วยส่งเสริมเรื่องสติปัญญา ความสงบร่มเย็น และความราบรื่นของชีวิต
- ประตูบ้านหันไปทางทิศใต้ ให้ห้องพระหรือหิ้งพระอยู่ฃบริเวณด้านหน้า ฝั่งซ้ายมือของตัวบ้าน จะช่วยให้เกิดความเป็นสิริมงคล และช่วยป้องกันภัยอันตรายต่างๆ ที่เข้ามาได้เป็นอย่างดี
- ประตูบ้านหันไปทางทิศตะวันออก ให้เลือกปางถวายเนตรมาประทับบูชาเป็นพระประธาน ช่วยส่งเสริมเรื่องการเงินและการงาน
- ประตูบ้านหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ตั้งห้องพระหรือหิ้งพระอยู่บริเวณด้านขวามือของตัวบ้าน ถือเป็นจุดรุ่งเรืองตามหลักฮวงจุ้ย ช่วยเสริมในเรื่องการงานโดยเฉพาะการทำมาค้าขายได้เป็นอย่างดี
- ประตูบ้านหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จัดให้ห้องพระหรือหื้วพระอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ โดยให้พระประธานหันหน้าออกไปทางหน้าบ้าน จะส่งเสริมในเรื่องของสุขภาพ หน้าที่การงานและการเงินได้เป็นอย่างดี
- ประตูบ้านหันไปทางทิศตะวันตก ให้ตำแหน่งห้องพระหรือหิ้งพระอยู่ตำแหน่งตรงกลางฝั่งซ้ายมือของบ้าน จะช่วยส่งเสริมในเรื่องหน้าที่การงานและการทำธุรกิจให้ราบรื่น
- ประตูบ้านหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ให้ตำแหน่งห้องพระหรือหิ้งพระไว้บริเวณทิศเหนือของบ้าน จะช่วยส่งเสริมเรื่องหน้าที่การงานและให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองในการเดินทาง
- ห้องพระหรือหิ้งพระหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ให้ห้องพระหรือหิ้งพระอยู่ตำแหน่งตรงกลางของหน้าบ้าน จะช่วยส่งเสริมในเรื่องโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเคล็ดไม่ลับในการจัดและตกแต่งบ้านตามหลักฮวงจุ้ย รับเฮง เพิ่มสิริมงคลให้แก่ชีวิตและบ้าน และเรายังมีแถมวิธีการจัดตกแต่งห้องทำงานให้อีกหนึ่งห้องเอาใจสายทำงานและหลายๆคนที่ทุกวันนี้การทำงานที่บ้านได้กลายมาเป็นเรื่องปกติในชีวิตไปแล้วเรียบร้อย
ถึงแม้ว่าศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้นจะดูเป็นเรื่องของความเชื่อ แต่หลายๆหลักของฮวงจุ้ยนั้นก็มีการพิสูจน์และยืนยันออกมาแล้วว่ามีความตรงและสอดคล้องกับหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่จะช่วยให้การดำเนินชีวิตและการอยู่อาศัยภายในบ้านไม่เสียหลาย อย่างไรก็สามารถนำเคล็ดไม่ลับที่เรานำมาฝากวันนี้ไปปรับใช้ให้ตรงกับบ้านและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้ตามสะดวก และรอรับความเฮง ความปังเข้ามาได้เลย
ปรึกษากับมัณฑนากรมืออาชีพของเรา
