7 เคล็ดลับแต่งห้องให้ลูกรัก ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการมากกว่าที่คิด
กิจกรรมที่สำคัญที่สุดในวัยเด็กคือการนอน ดังนั้นจึงไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าห้องนอนนั้นเป็นพื้นที่ที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของชีวิตของจินตนาการ เป็นพื้นที่แห่งการเริ่มต้นสิ่งสำคัญ ฉะนั้นควรเป็นพื้นที่ปลอดภัย เอยู่แล้วสบายใจ และช่วยกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ส่งเสริมพัฒนาการควบคู่กันไป
เมื่อห้องนอนไม่ได้เป็นเพียงแค่ห้องนอน การวางแผนการแต่งห้องให้ลูกน้อยของคุณที่ดีนั้นจะช่วยให้เด็กโตมาในสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริงเขาในด้านที่ดีต่อทั้งร่างกายและจิตใจ ด้วย 7 เคล็ดลับต่อไปนี้
1. ตำแหน่งที่ตั้งของห้องนอน
ทำคัญที่สุดของตำแหน่งที่ห้องนอนเด็กควรอยู่เลยคือให้ตำแหน่งที่อากาศสามารถถ่ายเทได้ดี ควรมีหน้าต่างสำหรับการระบายอากาศและให้อากาศนั้นได้หมุนเวียนอยู่ตลอด ทั้งนี้จะช่วยลดการสะสมของฝุ่นซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพของเด็ก อีกทั้งเพื่อให้มีแสงธรรมชาติส่องถึงเพียงพอไม่ให้ห้องมืดอึมครึม แต่ไม่ควรเป็นทิศทางหรือตำแหน่งที่มีแดดลงจัด แต่อย่างไรก็ตามควรระวังในเรื่องของขนาดหน้าต่างที่อาจทำให้เด็กพลัดตกได้ โดยเตียงควรวางในตำแหน่งให้ชิดกับผนังไม่ควรชิดกับหน้าต่างเพื่อป้องกันการพลัดตก หากบ้านมีหลายชั้น บริเวณชั้นหนึ่งจึงเป็นตำแหน่งที่แนะนำของการเลือกให้เป็นห้องนอนเด็ก
2. ขนาดห้อง
ขนาดของห้องนอนเด็กนั้นไม่ควรเล็กเกินไปหรือกว้างโล่งจนเกินไป ควรมีพื้นที่ให้เด็กพอทำกิจกรรมต่างๆหรือขยับเพื่อออกกำลังกายเล็กน้อยได้บ้าง จะเป็นการช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกายของเด็กได้ดีไม่ใช่เล่นเลย
3. พื้นที่ใช้สอย
การจัดสรรพื้นที่ใช้สอยภายในห้องให้คุ้มค่าทุกตารางนิ้วที่สุดเป็นอีกปัจจัยในการกระตุ้นการเรียนรู้ให้แก้ลูกน้อยที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์หรือเตียงที่มีช่องลับหรือช่องที่เก็บของได้เยอะ การเลือกซื้อตู้หรือโต๊ะที่มีฟังก์ชันใช้ได้หลายแบบ นอกจากนี้ยังช่วยฝึกวินัยความเป็นระเบียบให้กับลูกๆของคุณอีกด้วย เนื่องจากธรรมชาติของเด็กมักชอบรื้อข้างของและวางของระเกะระกะไม่เป็นระเบียบ การจัดสรรให้พื้นที่ใช้สอยทุกที่มีหน้าที่ของมันนั้นอาจช่วยให้เด็กๆอยากเก็บของให้เป็นระเบียบมากขึ้น และข้อดีของการแบ่งพื้นที่ใช้สอยที่ดีนั้นยังช่วยให้เก็บกวาดง่ายมากขึ้นอีกด้วย
4. สีสันกันจินตนาการอันบรรเจิด
ฉีกกฎออกจากกรอบเดิมๆว่าสีห้องต้องมีเพียงสีเดียว จากการวิจัยมานับชิ้นไม่ถ้วนนั้นชี้ให้เห็นชัดว่าสีสันนั้นกระตุ้นและส่งผลต่อทักษะหลากหลายประการทั้งด้านอารมณ์ การจดจำ และความคิดสร้างสรรค์ โดนให้เน้นไปที่การเลือกสีสันที่สดใส โดยแต่ละสีนั้นก็จะให้อารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป อยากไรก็ดีควรทราบสีที่ลูกน้อยของคุณโปรดปรานเป็นพิเศษ หรือให้เขามีส่วนรวมในการเลือกสีห้องนอนด้วยตัวเอง
5. การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์
รูปร่างเฟอร์นิเจอร์ที่จะเลือกใช้นั้นควรมีความโค้งมน วัสดุไม่แตกหักง่ายหรือก่อให้เกิดอันตรายแก่เด็ก ขนาดเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นควรกะทัดรัดเหมาะสมโดยหากเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใดสามารถปรับขนาดหรือความสูงได้เช่นโต๊ะเก้าอี้สามารถเลือกใช้แบบที่ปรับขนาดได้เลยเนื่องจากเด็กในช่วงนี้มีการเจริญเติบโตไวจึงสามารถตอบรับการใช้งานของเด็กได้อย่างสะดวก ส่วนเตียงให้เน้นไปที่ความแข็งแรงนุ่มสบายไม่สูงเกินไปและกว้างพอให้สามารถนอนพลิกตัวไปมาได้สบาย การลงทุนกับเตียงสำหรับห้องนอนเด็กถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเพราะหากที่นอนสะอาดไม่เพียงพอนั่นอาจจะหมายถึงสิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กได้เช่นเดียวกัน
6. มุมเสริมพัฒนาการ
ควรมีพื้นที่เอนกประสงค์หรืออาจจัดเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมเสริมทักษะที่เด็กๆชอบเป็นพิเศษภายในห้องนอนเพื่อให้เขาได้ใช้ความคิด จินตนาการได้อย่างเต็มที่ละอิสระ เช่นมุมวาดภาพขีดเขียน เล่นตัวต่อ ปั้นดินน้ำมัน เป็นต้น
7. ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดควรมีมาตรฐานและระบบตัดกรณีฉุกเฉิน ในห้องนอนไม่ควรมีเครื่องใช้ไฟฟ้ามากเกินไป เต้าเสียบควรจะมีที่ครอบและมีเต้าเสียบโดยตรงอยู่ภายในห้องเด็กไม่มากจนเกินไป
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยห้องนอนนั้นมีความสำคัญกับเด็กเป็นอย่างมาก ที่นอกจากความสวยงามฟังก์ชัน ความปลอดภัย และการจะดพื้นที่ใช้สอยอย่างดีนั้นก็สำคัญไม่เป็นกัน เพราะการสร้างห้องนอนที่ดีเป็นเสมือนการซื้อสภาพแวดล้อมดีๆที่พร้อมส่งเสริมพัฒนาการในทุกๆด้านให้แก่ลูกรักของคุณ ให้มัณฑนากรมืออาชีพที่ 369 House Design ของเราออกแบบภายในและสร้างอาณาจักรอันแสนพิเศษปลอดภัยให้กับเจ้าชาย เจ้าหญิงที่คุณรักได้แล้ววันนี้
ปรึกษากับมัณฑนากรมืออาชีพของเรา